วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ทดสอบกลางภาคเรียน

ให้นักศึกษาทำข้อสอบต่อไปนี้ ลงในบล็อกของนักศึกษา 20 คะแนน

1.) การศึกษาไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ     การศึกษาของไทยยุคก่อน จัดการศึกษาที่ไม่มีระบบและแบบแผน คือ ไม่มีระบบ โรงเรียน และชั้นเรียน วัดเป็นแหล่งให้ความรู้ มีพระภิกษุเป็นผู้สอนเพียงเพื่อประกอบอาชีพ วิชาความรู้ส่วนใหญ่ที่ถ่ายทอดไม่มีการจดบันทึกไว้ ใช้ความสามารถในการท่องจำมากกว่า จึงทำให้การศึกษาไม่มีอิทธิพลต่อแนวคิดการศึกษา  เช่น  ความเชื่อดั้งเดิมของคนไทย ที่มีความเคารพนับถือผู้ที่อาวุโสกว่า  เป็นต้น

2.) สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาจัดการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ     เหมือนกัน เพราะ การจัดการศึกษามีสถานที่ศึกษาที่เหมือนกันคือ วัด สำนักสงฆ์ สำนักราชบัณฑิต และราชสำนัก โดยมีพระภิกษุเป็นผู้สอนและผู้ชายเท่านั้นที่สามารถเรียนได้

3.) อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการจัดการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ     ทำให้เกิดการค้าขาย  การเผยแพร่ศาสนา และสอนการดำเนินชีวิตในแบบชาติตะวันตก มีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ ประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทย ขึ้นเป็นครั้งแรกและสอนวิชาการแบบยุโรป  และสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเกรงว่าคน ไทยจะหันไปเข้ารีตและนิยมฝรั่ง ทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดี  แต่งหนังสือแบบเรียนเรียนภาษาไทยเป็นของตนเอง ชื่อ "จินดามณี"

4.) การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ     เป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ คือ มีการจัดพิมพ์หนังสือเรียน มีการสอนภาษาอังกฤษ  และมีการจัดตั้งโรงพิมพ์ครั้งแรกทำให้สะดวกต่อการศึกษามากขึ้น และทำให้ต่อมามีการพัฒนาต่อการปฏิรูปการศึกษาของไทยเรื่อยๆมา

5.) แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่ออะไร เกิดขึ้นในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ     แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ  "จินดามณี"
"หนังสือจินดามณี"ในรัชสมัยพระนารายณ์มหาราช เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 27
แห่งสมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ.2199-2231) ฝรั่งเศสได้มาติดต่อค้าขายและได้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ ประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรก และสอนวิชาการแบบยุโรป เกี่ยวกับ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส ต่อเรือ การก่อสร้าง ทำให้พระองค์เกรงว่าคนไทยจะหันไปสนใจเข้ารีตและนิยมฝรั่ง จึงทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดี แต่งหนังสือแบบเรียนภาษาไทยเป็นของตนเอง ชื่อ “จินดามณี” ใช้เริ่มอ่านจนกระทั่งหัดเรียนรู้วรรณคดีและอักษรศาสตร์ไทยชั้นสูง จึงทำให้เกิดแบบเรียนเล่มแรกของไทย

6.) การจัดการศึกษาภาคบังคับมีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย และให้เหตุผล
ตอบ     การศึกษาแบ่งออกเป็นสองภาคคือ ภาคการศึกษาสำหรับทวยราษฎร์ ได้แก่ ประถมศึกษา เป็นการศึกษาภาคบังคับ มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญศึกษาและวิสามัญศึกษา มีจุดมุ่งหมายเพื่อรับผิดชอบชั่วดี และภาคศึกษาพิเศษ เรียกว่ามัธยมศึกษา เรียนทั้งสามัญและวิสามัญ ไม่บังคับให้เรียนทุกคน
7.) การศึกษาที่เรียกว่ามาติกาศึกษาเป็นอย่างไร จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ     เกิดขึ้นในยุคสมัยรัชกาลที่ 2 และในสมัยรัชกาลที่ 3  เมื่อบ้านเมืองสงบสุข ทำให้การศึกษามีศูนย์กลางยุที่วัดเหมือนสมัยอยุธยา จึงมีการจัดการศึกษาที่เรียกว่า  มาติกา ขึ้น  มีอยู่ 8 มาติกา  คือ
            1.ตำบลที่เล่าเรียนคือ ตำบลของวัด
            2.โรงเรียน คือ ที่เรียนของวัด
            3.นักเรียนและครู มี 3 ประเภท คือ ภิกษุ สามเณร
            4.เวลาเรียน คือ ตอนพระว่าง
            5.เครื่องเล่าเรียน คือ กระดานชนวน ดินสอพอ และปากกาไม้ไผ่
            6.วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียน
            7. วิชาเลขคือ เลขคณิตวิธีต่าง ๆ  ซึ่งวิชาที่เรียนนั้นจะเกี่ยวกับเลข  
            8. ข้อบังคับการเรียนคือ ระเบียบวินัย การลงโทษ และการชมเชย

8.) การศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ     การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งโรงเรียนสอนภาษาไทย ที่พระบรมมหาราชวังเป็นโรงเรียนแห่งแรกของไทย มีพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจาริยางกูร) เป็นอาจารย์ใหญ่   มุ่งที่จะฝึกคนเข้ารับราชการ เรียนภาษาไทย การคิดเลข และขนบธรรมเนียมราชการ

9.) การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบายและยกเหตุผล
 ตอบ    เห็นด้วย เพราะการปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันจะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพัฒนาเพื่อให้การศึกษาสามารถสร้างคนดีให้กับสังคมและเป็นพลังในการพัฒนาประเทศให้สามารถแข่งขันกับนานาอารยประเทศบนพื้นฐานของวัฒนธรรมและความเป็นไทยได้ อาทิ พัฒนาปัญหาความล่าช้าในกระบวนการพิจารณาทางกฎหมาย  โดยเฉพาะการจัดทำกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้มีการจัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย

10.)  ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาสู่ยุคสมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอะไรบ้าง

ตอบ     ยุทธศาสตร์ เกี่ยวกับการเสริมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอาเซียน จัดทำคู่มืออาเซียน คุณภาพและโอกาสทางการศึกษา,  สร้างโอกาสทางการศึกษาระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา,  เคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนและการจัดการศึกษาให้มีความเสมอภาคกัน และการสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรรายสาขา  เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น