วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่3

คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 3

1. แนวคิดทางการศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน มีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ     การศึกษาของไทยยุคก่อน จัดการศึกษาที่ไม่มีระบบและแบบแผน คือ ไม่มีระบบ โรงเรียน และชั้นเรียน วัดเป็นแหล่งให้ความรู้ มีพระภิกษุเป็นผู้สอนเพียงเพื่อประกอบอาชีพ วิชาความรู้ส่วนใหญ่ที่ถ่ายทอดไม่มีการจดบันทึกไว้ใช้ความสามารถในการท่องจำมากกว่า  จึงทำให้การศึกษาไม่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคมมากนัก

2. สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยา การจัดการศึกษาเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย
ตอบ     เหมือนกัน เพราะ การจัดการศึกษายังคงมีวัดเป็นสถานที่ศึกษา มีพระภิกษุเป็นผู้สอนและยังคงมีผู้ชายเท่านั้นที่สามารถเรียนได้
3. อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ     ทำให้ให้เกิดการค้าขายและเผยแพร่ศาสนาจากอิทธิพลของชาวตะวันตก  มีการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ ประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทย ขึ้นเป็นครั้งแรกรับวิชาการแบบยุโรป  และสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเกรงว่าคน ไทยจะหันไปเข้ารีตและนิยมฝรั่ง จึงแต่งหนังสือแบบเรียนภาษาไทยเป็นของตนเอง ชื่อ “จินดามณี
4. การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ     เป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เช่น พิมพ์ตำราเรียนทำให้สะดวกต่อการศึกษา ทำให้ต่อมามีการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมา
5. แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ เกิดในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ     หนังสือจินดามณีในรัชสมัยพระนารายณ์มหาราช เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 27
แห่งสมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ.2199-2231) ฝรั่งเศสได้มาติดต่อค้าขายและได้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ ประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรก และสอนวิชาการแบบยุโรป เกี่ยวกับ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส ต่อเรือ การก่อสร้าง ทำให้พระองค์เกรงว่าคนไทยจะหันไปสนใจเข้ารีตและนิยมฝรั่ง จึงทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดี แต่งหนังสือแบบเรียนภาษาไทยเป็นของตนเอง ชื่อ “จินดามณี” ใช้เริ่มอ่านจนกระทั่งหัดเรียนรู้วรรณคดีและอักษรศาสตร์ไทยชั้นสูง จึงทำให้เกิดแบบเรียนเล่มแรกของไทย
6. การจัดการศึกษาภาคบังคับ มีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ     การศึกษาแบ่งออกเป็นสองภาคคือ ภาคการศึกษาสำหรับทวยราษฎร์ ได้แก่ ประถมศึกษา เป็นการศึกษาภาคบังคับ มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญศึกษาและวิสามัญศึกษา มีจุดมุ่งหมายเพื่อรับผิดชอบชั่วดี และภาคศึกษาพิเศษ เรียกว่ามัธยมศึกษา เรียนทั้งสามัญและวิสามัญ ไม่บังคับให้เรียนทุกคน 
7. การจัดการศึกษาที่เรียกว่า มาติกาศึกษา เป็นอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ     1.ตำบลที่เล่าเรียนคือ ตำบลของวัด
            2.โรงเรียน คือ ที่เรียนของวัด
            3.นักเรียนและครู มี 3 ประเภท คือ ภิกษุ สามเณร
            4.เวลาเรียน คือ ตอนพระว่าง
            5.เครื่องเล่าเรียน คือ กระดานชนวน ดินสอพอ และปากกาไม้ไผ่
            6.วิชาหนังสือ คือ หนังสือเรียน
            7. วิชาเลขคือ เลขคณิตวิธีต่าง ๆ  ซึ่งวิชาที่เรียนนั้นจะเกี่ยวกับเลข  
            8. ข้อบังคับการเรียนคือ ระเบียบวินัย การลงโทษ และการชมเชย    ในการมาเรียนนั้นต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบกติกาที่ได้กำหนดเอาไว้ ถ้าทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ  ถ้าทำถูกก็จะได้รับคำชมเชย
8. การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ     การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งโรงเรียนสอนภาษาไทย ที่พระบรมมหาราชวังเป็นโรงเรียนแห่งแรกของไทย มีพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจาริยางกูร) เป็นอาจารย์ใหญ่   มุ่งที่จะฝึกคนเข้ารับราชการ เรียนภาษาไทย การคิดเลข และขนบธรรมเนียมราชการ
9. การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ     เห็นด้วย เพราะการปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันจะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพัฒนาเพื่อให้การศึกษาสามารถสร้างคนดีให้กับสังคมและเป็นพลังในการพัฒนาประเทศให้สามารถแข่งขันกับนานาอารยประเทศบนพื้นฐานของวัฒนธรรมและความเป็นไทยได้ อาทิ พัฒนาปัญหาความล่าช้าในกระบวนการพิจารณาทางกฎหมาย  โดยเฉพาะการจัดทำกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้มีการจัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย
10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาเข้าสู่สมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างไร
ตอบ     สิ่งที่สำคัญคือการสร้างความตระหนักถึงสมาคมอาเซียน ผลิตครูรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพเพื่อที่จะสอนกับคนรุ่นใหม่


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น