วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558

คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่2


คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่2

1. การจัดการศึกษาที่ไม่มีปรัชญาเป็นแนวทางท่านเห็นด้วยหรือไม่อย่างไรจงอธิบาย
ตอบ ไม่เห็นด้วย เพราะการศึกษาปรัชญาเป็นแนวทางการมุ่งแสวงหาความจริงเพื่ออธิบายสิ่งต่างๆที่อยู่ในขอบข่ายที่เราสนใจได้  หากการศึกษาไม่มีปรัชญาเป็นแนวทางการศึกษาก็อาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร  ดังนั้น การศึกษาควรมีปรัชญา เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อการเรียนรู้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
2. ปรัชญากับการศึกษาท่านคิดว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไรจงอธิบาย
ตอบ  มีความสัมพันธ์ คือ ปรัชญา เป็นองค์ความรู้ที่เป็นความจริงและปรัชญาเป็นแนวทางในการศึกษา หากเรามีปรัชญาในการศึกษาก็จะส่งผลให้การศึกษาไปในทิศทางเดียวกัน และมีการพัฒนามากยิ่งขึ้น
3. จงวิเคราะห์การจัดการศึกษาของโรงเรียนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับหลักสูตรการจัดเรียนการสอนและการบริการทางการศึกษาว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ดำเนินการตามแนวคิดการศึกษาของปรัชญาจิตนิยมวัตถุนิยมประสบการณ์นิยมอัตภาวนิยม
ตอบ   ปรัชญาวัตถุนิยม คือการจัดให้ผู้เรียนเรียนรู้และคุ้นเคยกับสรรพสิ่งธรรมชาติ ส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าถึงธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมโดยการจัดกิจกรรมที่อาศัยกฎธรรมชาติเป็นหลักเพื่อฝึกประสบการณ์นิยมเรื่อง การที่โรงเรียนเน้นสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้เรียน ซึ่งจะนำไปสู่ประสบการณ์นิยมอัตภาวนิยม เรื่อง การให้ผู้เรียนเลือกกิจกรรมชุมนุมตามอิสระ
4. จงบอกหลักการของปรัชญากลุ่มอนุรักษ์นิยมคือสารัตถนิยมและนิรันตรนิยมเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร       ตอบ  เหมือนกัน คือ เชื่อว่าหลักการยอมถูกต้องเสมอเชื่อในคุณงามความดีอันสูงสุดที่ไม่เปลี่ยนแปลง
5. จงบอกหลักการของปรัชญากลุ่มกลุ่มเสรีนิยม (liber view) คือพิพัฒนาการนิยม (progressive)และปฏิรูปนิยม (reconstructionism) เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ  ต่างกัน คือ พิพัฒนาการนิยมมุ่งพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กด้านร่างกายอารมณ์สังคม
และสติปัญญาของเด็กปฏิรูปนิยมการเรียนรู้ที่มีค่าต่อเมื่อได้ลงมือปฏิบัติจริงในชีวิตจริงของผู้เรียน
6. จงอธิบายว่าความดีความงามเป็นสิ่งที่วัดได้หรือไม่จงอธิบาย
ตอบ วัดได้  คือ ความดี ความงามนั้นสามารถวัดได้จากการกระทำต่างที่เกิดของมนุษย์ที่ได้แสดงออกมา
7. จงเขียนเรียงความเรื่องโลกทัศน์ของข้าพเจ้าที่มีต่ออาชีพครู
ตอบ      "อาชีพครู"  คือ อาชีพที่มีเกียรติ เป็นอาชีพหลักของชาติอีกอาชีพหนึ่ง เพราะ "ครู" คือ ผู้สร้าง และเป็นแม่พิมพ์ของชาติ   ดิฉันคิดว่าการที่จะไปเป็นครูได้นั้นมิใช่ว่าเพียงแค่จบหลักสูตรครุศาสตร์หรือหลักศึกษาศาสตร์  5   ปี  หรือ ใบเกรดที่มีเกียรตินิยม  เกรดสูงๆ  หรือการคิดหาแสวงหาผลประโยชน์จากอาชีพ  ถ้าหากคนที่จะไปเป็นคุณครูมีความคิดแบบนี้แล้วเด็กจะเป็นคนดีได้อย่างไร
                สำหรับตัวดิฉัน  ดิฉันคิดว่า ดิฉันเป็นนักศึกครูคนหนึ่งที่ไม่ได้เก่งและไม่ได้มีความรู้มากมายสักเท่าไร  แต่เมื่อได้มาอยู่ในการศึกษาของคณะครุศาสตร์แล้ว  ดิฉันจะเก็บเกี่ยวความรู้ประการณ์ต่างๆที่ทางคณะครุศาสตร์ได้มอบให้ นำไปสอนนักเรียนและฝึกฝนนักเรียน  แล้วนักเรียนของดิฉันจะต้องเป็นคนเก่ง คนดี  มีคุณธรรมจริยธรรมและสามารถนำความรู้นี้ไปช่วยพัฒนาประเทศชาติได้  นี้แหละ "โลกทัศน์ของข้าพเจ้าที่มีต่ออาชีพครู"
8. ท่านคิดว่าปรัชญาตะวันตกที่เหมาะสมใช้เป็นแนวทางการจัดการศึกษาของไทยมากที่สุดจงอธิบาย
ตอบ  ปรัชญาปฏิรูปนิยม เพราะ เป็นปรัชญาที่มุ่งไปสู่การปฏิบัติและการพัฒนาส่งเสริมให้โรงเรียนมีบทบาทในการปฏิรูปสังคมเพื่อใช้ในการศึกษาเป็นปัจจัยในการสร้างสังคมใหม่ให้มีความเสมอภาคและมีความเป็นธรรม
9. ท่านคิดว่าพุทธปรัชญาจะมาพัฒนาการศึกษาของไทยได้หรือไม่จงอธิบาย
ตอบ  พัฒนาได้  เพราะ พุทธปรัชญาจะช่วยสอนในเรื่องของการเตือนสติ รู้จักคิด รู้จักวิเคราะห์ และรู้จักผิดชอบชั่วดี ช่วยขัดเกลาจิตใจ อีกทั้งยังได้เรียนรู้หลักธรรมที่ที่สอดแทรกอยู่ในบทเรียนหรือสิ่งที่ได้เรียนรู้และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างเป็นคนมีคุณธรรมได้  เป็นต้น
10. ท่านคิดว่าปรัชญาที่จัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญจงบอกชื่อและอธิบายการจัดการสอนที่ยึดเป็นผู้เรียนเป็นสำคัญมีวิธีการจัดอย่างไรอธิบายยกตัวอย่าง
ตอบ  ปรัชญาปฏิรูปนิยม (reconstructionism)  เพราะปรัชญาปฏิรูปนิยม คือ การเรียนรู้ที่มีค่าก็ต่อเมื่อได้ลงมือปฏิบัติจริงในชีวิตจริงของผู้เรียน  ส่วนการจัดการเรียนการสอนหลักการเชื่อว่า “หนทางปฏิรูปเพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่”(reconstructive road to culture) ได้ยึดถือการศึกษาเพื่อปฏิรูปสังคม เป็นสำคัญ



คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่1

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการศึกษา


คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่1

1.  จงประมวลผลความหมายของคำว่า การศึกษา 5นิยาม
ตอบ        1.พลาโต นักปราชญ์ชาวกรีก ได้กล่าวว่า การศึกษา หมายถึง ความสามารถที่จะทำให้ผู้เรียนรู้สึกเป็นสุขและเป็นทุกข์ได้ในโอกาสที่เหมาะสมและพัฒนาสิ่งที่เป็นความงามและสิ่งที่สมบูรณ์ทุกอย่าง ซึ่งผู้เรียนอาจทำให้เกิดได้
                2.พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ได้ให้ความหมายคำว่า “การศึกษา” ว่า กระบวนการเรียนรู้เพื่อเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้  การฝึก  การอบรม  การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลกความก้าวหน้าทางวิชาการ  สร้างองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการจัดสภาพแวดล้อมสังคม  การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
                3.เพลเล่อร์ นักมนุษยวิทยาอีกคนหนึ่งได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การศึกษา เป็นกระบวนการที่ช่วยสร้างจิตใจ นิสัย และความสามารถทางกายให้แก่บุคคล
                4.สาโรช  บัวศรี กล่าวว่า การศึกษา คือ การงอกงามหรือพูดอีกที ก็คือ การจัดประสบการณ์ที่เหมาะสมให้แก่ผู้เรียน เพื่อผู้เรียนจะได้งอกงามขึ้นตามจุดประสงค์
                5.สปินเลอร์ นักมนุษยวิทยา กล่าวว่า การศึกษา หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดวัฒนธรรม จะเป็นการมุ่งเน้นให้แต่ละคน มีความเป็นตัวของตัวเองในทุกๆด้าน  ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม

2.  คำว่า การศึกษา คือ กระบวนการเรียนรู้ ท่านเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร
จงอธิบาย
ตอบ        เห็นด้วย เพราะ เมื่อเกิดการเรียนรู้ จะสามารถพัฒนาส่งเสริมให้บุคคลเจริญเติบโตและมีความเจริญงอกงามทางกาย อารมณ์  จิตใจ  สังคมและสติปัญญาจนเป็นสมาชิกของสังคมที่มีคุณธรรมซึ่งเกิดขึ้นจากการถ่ายทอดที่เป็นกระบวนการและการเรียนรู้เป็นลำดับขั้นตอน

3.  ในฐานะที่ท่านเป็นนักศึกษาวิชาชีพครู จงให้นิยามการศึกษาตามความคิดเห็นของท่าน
ตอบ        การศึกษา คือ สิ่งที่ขัดเกลาความคิด เสริมสร้างความรู้ พัฒนาทางด้านสติปัญญา และยกระดับจิตใจของตนให้สูงขึ้นเป็นการเรียนรู้ที่เป็นระบบ  ผ่านการอบรมบ่มเพาะ  ฝึกฝนการเรียนรู้โดยการถ่ายทอดหรือเรียนรู้ด้วยตนเอง

4.  ความมุ่งหมายทั่วไปและความมุ่งหมายเฉพาะเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ตอบ        เหมือนกัน  เพราะ  ความมุ่งหมายเฉพาะ เป็นความมุ่งหมายที่แยกย่อยจากความมุ่งหมายทั่วไป เป็นเฉพาะเรื่อง เช่น ความมุ่งหมายหลักสูตรแต่ละระดับ,  เฉพาะรายวิชาหรือเนื้อหาวิชา   เป็นต้น

5.  ความมุ่งหมายคืออะไร ความมุ่งหมายการศึกษาระดับชาติ ความมุ่งหมายการศึกษาแต่ละระดับ ความมุ่งหมายระดับหลักสูตร และความมุ่งหมายระดับหมวด และความมุ่งหมายระดับการสอน มีความสัมพันธ์หรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ        ความมุ่งหมาย  คือ  แนวคิดหรือปรัชญาที่บุคคลกำหนดไว้ล่วงหน้า  ในการทำกิจกรรมใดๆโดยมีการวางแผนสำหรับเป็นแนวปฏิบัติเพื่อให้ลุล่วงและเกิดวัตถุประสงค์  ดังนั้น ความมุ่งหมายทุกระดับ  จึงต้องสอดคล้องสัมพันธ์กัน  เพื่อจะได้บรรจุผลลัพธ์และถูกต้องตามกฎหมาย

6.  องค์ประกอบที่ใช้กําหนดความมุ่งหมายของการศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ  1.ปรัชญาการศึกษา เป็นแนวทางที่กำหนดตามความมุ่งหมาย และกำหนดทิศทาง ให้การศึกษาดําเนินการไปในแนวทางของปรัชญา
       2.จิตวิทยาการศึกษา คํานึงถึงผู้เรียนเกี่ยวกับผู้เรียน กระบวนการเรียน การแนะแนว การกำหนดความมุ่งหมายของการศึกษานําไปสู่พัฒนาการของผู้เรียน วิธีวัดคุณค่า เพื่อกำหนดความมุ่งหมายให้สอดคล้องกับความต้องการ
       3.ใการจัดการศึกษา เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม สืบสานวัฒนธรรม ปกครองระบอบประชาธิปไตย ความมุ่งหมายของการศึกษาเพื่อให้บุคคลสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม และการดําเนินชีวิตของตนเองให้เข้ากับสภาพสังคมปัจจุบัน
       4.บริบทของชุมชน รวมทั้งฐานะทางเศรษฐกิจของคนใน แหล่งวิทยากรของคนในชุมชน ซึ่งการดําเนินการศึกษา อาศัยคนในชุมชน แหล่งเรียนรู้ ทรัพยากรในท้องถิ่น ความมุ่งหมายจําเป็นต้องนําสิ่งที่กล่าวถึงมากำหนดเป็นความมุ่งหมายของการศึกษา
            5.ต่างประเทศที่มีความสัมพันธ์กัน  เป็นวิธีที่ทําให้ทราบว่า การจัดการศึกษาของประเทศต่าง ๆ มีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศเรา เช่น การเปิดเสรี สมาคมอาเซียน จะมีผลกระทบต่อการศึกษาเราจําเป็นต้องวิเคราะห์สภาพสังคมบริบทของเราและของประเทศในกลุ่มสมาคมอาเซียน แล้วนํามากำหนดเป็นจุดมุ่งหมายให้สอดคล้องกัน  
            6.เทคโนโลยี เป็นผลทําให้การจัดการศึกษาสะดวกและเป็นไปอย่างรวดเร็ว เปิดโลกการติดต่อสื่อสารได้ทุกมุมของโลก จะต้องนําหลักการทางวิทยาศาสตร์มาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือ เครื่องใช้วัสดุอุปกรณ์การสอนหลากหลาย การกำหนดเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประกอบ กับความสะดวกรวดเร็วทันต่อสถานการณ์

7.ทำไมการจัดการศึกษาไทยสมัยต่าง ๆ จึงต้องกําหนดความมุ่งหมายการศึกษา ที่จะบ่งบอกความเป็นมาของการศึกษาไทยได้หรือไม่อย่างไร
จงอธิบาย
ตอบ   การศึกษาของคนไทยมีความเป็นมาตั้งแต่สุโขทัยจนมาถึงปัจจุบัน  มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในทุกๆด้าน  ทั้งด้านความรู้  ความสามารถและด้านคุณธรรมจริยธรรม สาเหตุที่ทำให้ต้องกำหนดความมุ่งหมายของการศึกษา  นั่นคืออาศัยบริบทของชุมชน  ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  และจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพของสังคม  ซึ่งจากการกำหนดความมุ่งหมายของการศึกษาในสมัยต่างๆ สามารถบ่งบอกถึงความเป็นมาและสภาพของการศึกษาของสังคมไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้อย่างรู้แก่นแท้

8. ในฐานะท่านเป็นนักศึกษาวิชาชีพครู ท่านคิดว่าการศึกษามีความสำคัญต่อประเทศอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ   การศึกษาสำคัญต่อประเทศชาติอย่างมาก  เพราะการศึกษามีบทบาทต่อบุคคล  สังคม  ประเทศและมวลมนุษยชาติ  การศึกษาทำให้คนมีความคิดที่ดี  มีสติปัญญา   มีจิตใต้สำนึกที่ดี เห็นคุณค่าของสิ่งแวดล้อมรอบตัว  ช่วยทำให้คนสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างสงบสุข  การศึกษาถือเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สามารถนำความรู้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

9.     แนวคิดพุทธทาสภิกขุ ได้กล่าวว่า การศึกษาเพื่อมนุษย์จะมีโอกาสได้สิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่มนุษย์ควรจะได้โดยการทำลายซึ่งสัญชาตญาณอย่างสัตว์ แล้วมีการประพฤติกระทำอย่างมนุษย์ที่มีจิตใจสูงโดยสมบูรณ์ และสิ่งที่ดีที่สุดตามหลักศาสนาพุทธที่ว่า กินอยู่อย่างพอดี อย่ากินส่วนเกินอย่าใช้ส่วนเกินเพื่อจะให้เป็นไปได้อะไรอีกอันหนึ่งซึ่งสูงสุดเรียกว่า บรมธรรม และการศึกษา เพื่อธรรมาธิปไตยและเป็นเรื่องคนมีปัญญา ต้องมีปัญญาแท้จริงสูงสุด เห็นด้วยหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ    เห็นด้วย  เพราะ  การศึกษาเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับจิตใจของมนุษย์ให้สูงขึ้นทั้งทางกาย  จิตใจ และอารมณ์  การมีปัญญาจะต้องมีการศึกษาเล่าเรียน  ฝึกฝนในด้านต่างๆเพื่อพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น

10.   แนวคิดของนักการศึกษาไทยที่ท่านชอบมากที่สุด 1 ท่าน แสดงทัศนะของท่านต่อแนวความคิดการจัดการศึกษาของไทย
ตอบ   ท่านพุทธทาสภิกขุ  เพราะ  การศึกษาเพื่อมนุษย์จะมีโอกาสได้สิ่งที่ดีที่สุด  เพราะ  การศึกษาช่วยยกระดับจิตใจของมนุษย์ และคุณค่าของมนุษย์ให้สูงขึ้นโดยไม่ต้องดิ้นรนหรือไขว่คว้าให้มากมาย การมีปัญญาคือการที่ต้องการศึกษาเล่าเรียน  ฝึกกระบวนการคิดการวิเคราะห์เพื่อพัฒนาตัวเอง